ป.5 หัวใจเพชร !! เด็กชายยอดกตัญญู ปั่นจักรยานเก็บของเก่าขาย เลี้ยงแม่และน้องวัยขวบเศษ

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ชาวและผู้คนที่ขับรถสัญจรไปมา บนถนนสายนางรอง – หนองกี่ อยู่ระหว่าง ตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้พบเห็น เด็กชายยอดกตัญญู ปั่นจักรยานตระเวนเก็บของเก่าขายตามริมถนน นักข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปสอบถาม จึงได้ทราบว่าเด็กชายที่ได้ตระเวนเก็บของเก่าอยู่บริเวณริมถนน ชื่อว่า ด.ช.ทิพย์แทนไทย นามปัญญา หรือน้องมาร์ค อายุ 11 ปี กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านวังกระโดน อำเภอนางรอง

เด็กชายยอดกตัญญู ปั่นจักรยานเก็บของเก่าขาย ช่วยพ่อแม่

โดยเหตุผลที่ได้ออกมาปั่นจักรยานตระเวนเก็บของเก่ายังสถานที่ต่างๆ เนื่องจากอยากที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ ครอบครัวของเด็กชายมีฐานะยากจน โดยปกติแล้วพ่อกับแม่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ทำให้ไม่ค่อยมีของเก่าให้เก็บไปขายเหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งแม่ยังต้องเลี้ยงดูน้องวัยขวบเศษ ทำให้พ่อต้องเดินทางออกไปเก็บของเก่าเพียงคนเดียว ตนอยากที่จะช่วยเหลือพ่อแม่ จึงตัดสินใจปั่นจักรยานคันเก่าออกไปเก็บของเก่าบริเวณริมถนน หรือตามสถานที่ต่างๆ เพื่อที่จะนำไปให้พ่อทำการคัดแยกขาย จะได้มีเงินมาเลี้ยงแม่และน้อง น้องมาร์คกล่าวอีกว่า ตนไม่อายที่จะเก็บของเก่าขาย เนื่องจากรู้สึกเป็นห่วงแม่และน้องว่าจะไม่มีกิน อีกทั้งยังทิ้งท้ายไว้อีกว่า ถึงแม้ว่าจะจน แต่สักวันก็จะรวยได้

นักข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของน้องมาร์ค โดยสภาพตัวบ้านของน้องเป็นเพิงหลังเล็กๆ มุงด้วยหลังคาสังกะสีเก่ารอบตัวบ้าน บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยของเก่าที่เตรียมจะคัดแยกไปขาย พบว่า นางวัชราพร กลมวงศ์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องมาร์ค ที่กำลังอุ้มเด็กสาววัยขวบเศษ จากการสอบถามผู้เป็นแม่เล่าว่า น้องมาร์ค เป็นเด็กดี นิสัยดี ขยัน ว่างๆก็จะช่วงพ่อกับแม่คัดแยกของเก่าเพื่อที่จะนำเอาไปขาย หลังจากที่ตนมีลูกอีกคน ก็ไม่ได้ออกไปเก็บของเก่ากับสามี เนื่องจากตนต้องเลี้ยงลูกสาวคนเล็กอยู่ที่บ้าน น้องมาร์คจึงปั่นจักรยานออกไปเก็บของเก่าแทนตน เพื่อที่จะเอามาให้พ่อคัดแยกไปขาย ซึ่งช่วงนี้ไม่ค่อยมีของเก่าให้เก็บเยอะเหมือนเมื่อก่อน ก็จะขายของเก่าได้ประมาณวันละ 100 – 200 บาท ตนรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายขยันและมีความกตัญญูรู้จักช่วยพ่อกับแม่ทำงาน แต่ทว่าตนก็รู้สึกเป็นห่วงไม่อยากให้ลูกออกไปเก็บของเก่าไกลๆ ตนเคยถามลูกชายว่าอายหรือไม่ น้องมาร์คก็ตอบแม่กลับมาว่า ไม่อาย อยากช่วยพ่อแม่ กลัวแม่กับน้องไม่มีกิน

นายมงคล เสาวกูล อายุ 23 ปี ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพนักงานร้านรับส่งสินค้า เล่าให้ฟังว่า ตนรับรถไปทำงานโดยได้มีการขับผ่านถนนเส้นนี้อยู่เป็นประจำ ตนเห็นน้องมาร์คปั่นจักรยานออกมาเก็บของเก่าอยู่ตามริมถนนแทบทุกวัน พอตนเข้าไปสอบถามน้องจนได้ทราบว่าครอบครัวของน้องมีฐานะยากจน ต้องเก็บของเก่าไปขาย ตนรู้สึกสงสาร วันที่มีการขับผ่านมาถนนเส้นนี้แล้วพบเจอน้อง ตนก็จะแวะเอาลังกระดาษ ขวด พร้อมทั้งยังซื้อขนมติดรถเพื่อเอามาให้น้องอยู่เป็นประจำ ในบางครั้งก็มีการมอบเงินให้ครั้งละ 100 – 200 บาท ซึ่งนอกจากตนจะรู้สึกสงสารน้องแล้วยังรู้สึกชื่นชมในความกตัญญูของน้องมาร์ค ที่รู้จักช่วยเหลือพ่อกับแม่ จึงอยากจะขอฝากคนที่พบเห็นคนที่เขาลำบากก็อยากจะให้ช่วยเหลือกันไม่มากก็น้อย