ดราม่าแม่คนที่สอง ไม่สนใจเด็ก..เพราะเจ็บแต่ไม่ร้อง ไร้เยียวยา เด็กชายแขนหัก

ข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ยังคงเป็นประเด็นดราม่าในถกต่อเนื่อง เมื่อเด็กชายแขนหักไม่ได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ครูผู้ดูแลไม่ใส่ใจและปล่อยละเลย จนกระทั่งพี่ชายไปรับหลานแล้วไปบอกพ่อแม่เด็ก สุดสะเทือนใจไม่ช่วยเหลือสักบาท

ผู้ปกครองไม่พอใจมาก! เด็กชายแขนหัก ไม่ได้รับความเอาใจใส่จากครู ปล่อยปะละเลย เพราะคิดว่านักเรียนไม่ร้องไห้ คงไม่เป็นอะไร! ซ้ำร้ายโรงเรียนไม่รับผิดชอบ

กรณีดราม่าล่าสุด เรื่องราวของเด็กชายแขนหักกลายเป็นสิ่งที่สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ปกครองอย่างมาก เมื่อสอบถามได้คำตอบและความเป็นจริง ลูกตัวเองแขนหักผิดรูปผิดร่าง โดยครูผู้ดูแลหรือครูประจำชั้นนั้นไม่ได้ให้การเอาใจใส่ดูแล ทำให้ลูกทนอยู่ในสภาพแขนหักจนพี่ชายไปรับตอนเลิกเรียน ครูบอกว่าเด็กก็ไม่ได้ร้องไห้อะไร!! ไม่ใช่ผู้ปกครองเจอคำตอบนี้อารมณ์ก็พุ่งเช่นกัน

“น้องเตเต้” เด็กชายแขนหัก อายุเพียง 5 ขวบ และเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ของโรงเรียนในพื้นที่ตำบลโคกสูง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้ นางสาวกรรณิการ์ ผู้เป็นอาได้กล่าว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนของเดือนที่ผ่านมา เธอได้วานให้พี่ชายเดินทางไปรับหลานชายตอนเลิกเรียน เวลา 4 โมงเย็นวันเดียวกัน..พี่ชายวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าหลานชายแขนหัก ในเวลานั้นเองหลานร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ร้องจนสั่นไปทั้งตัว สภาพที่เห็นแขนด้านซ้ายตอนนั้นมันหักจนผิดรูป แค่เห็นยังรู้สึกเจ็บปวดแทน

เมื่อสอบถามหลานชายเขาเล่าว่า “แขนหนูหักตั้งแต่เที่ยงแล้ว” ส่วนพ่อแม่เด็กเมื่อเห็นลูกเป็นแบบนี้ก็รีบนำตัวส่งดรงพยาบาลนางรอง ซึ่งตั้งอยู่อำเภอนางรอง..เพราะโรงพยาบาลประจำอำเภอหนองกี่ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก ต่อมาเวลา 4 ทุ่ม(13 มิ.ย. 65) จึงเดินทางไปถึงโรงพยาบาล แพทย์บอกว่าเหตุเกิดตึ้งแต่เที่ยงทำไมปล่อยเวลาไว้นานขนาดนี้ มันจะทำให้ได้รับผลกระทบหลังได้รับการรักษา

วันที่ 14 มิถุนายน 2565 นางสาวกรรณิการ์ อาสาวของน้องเตเต้ ได้เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนและพูดคุยกับครูประจำชั้นของน้อง ทางครูผู้ดูแลชั้นอนุบาล 3 บอกว่าก็เห็นน้องเตเต้อยู่ในสภาพนี้มาตั้งแต่เที่ยงวัน ไม่เห็นร้องไห้ออกมาเลย คิดว่าไม่เห็นไรเลยไม่ได้ช่วย

เวลาต่อมาทางโรงเรียนได้ซื้อกระเช้าเพื่อกล่าวขอโทษกับครอบครัวและน้องเตเต้ ก่อนจะบอกว่าจะรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงิน จำนวน 55,000 บาท ได้มีการนัดว่าจะมอบเงินจำนวนนี้ให้ในวันที่ 20 มิ.ย. 65 ณ เวลานั้นเมื่อผู้ปกครองคิดว่าจะได้เงินเยียวยา จึงคิดและวางเอาไว้ว่าจะแบ่งเงิน 2 หมื่นให้คืนกับโรงเรียน เพื่อให้เอาไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติด ทว่าเมื่อถึงเวลานัดผู้อำนวยการโรงเรียนบอกว่าไม่มีเงิน..อยากได้มากเชิญไปฟ้อง

เมื่อทางโรงเรียนไม่รักษาคำพูดและจะไม่รับผิดชอบเยียวยา เรื่องนี้สร้างความคุ้นเคืองใจแก่ผู้ปกครองอย่างมาก และยิ่งทำให้รู้สึกคาใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับน้องเตเต้มากไปกว่าเดิม แขนที่หักมันหักจนเห็นชัด เพื่อนของน้องทั่งเป็นเด็กเขารู้กันทั้งห้อง คำถามคือครูเห็นแต่ไม่ช่วย!! ไม่ช่วย ไม่ถาม และไม่คิดจะบอกผู้ปกครอง ปล่อยให้มารู้เองทั้งที่เรื่องเกิดขึ้นมาตั้งแต่เที่ยง ทำให้กินเวลาไปนานหลายชั่วโมง

เบื้องต้นผู้ปกครองน้องเตเต้ ได้เข้าไปพบและร้องเรียกเรื่องดังกล่าวกับทางศูนย์ดำรงธรรม และเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานของ สภ.หนองกี่ เป็นที่เรียบร้อย ทว่าตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เรื่องยังคงเงียบไม่มีความคืบหน้า ทำให้ผู้ปกครองหันมาร้องสื่อให้ช่วยออกข่าว เพื่อเตือนให้เป็นกรณีศึกษา ผู้ที่มาประกอบอาชีพครู ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี อย่าลืมว่ามาทำงานนี้เพื่ออะไร และไหนจะมาปล่อยปะละเลยไม่ให้การดูแลเอาใจใส่เด็กนักเรียน ควรมีมาตรการลงโทษครูกับเรื่องนี้ด้วย