รายงานข่าวล่าสุด สืบเนื่องมาจากเหตุเรือลากจูงเหล็กล่มในแม่ บริเวณแยกหน้าวัดพนัญเชิงฯ เผยอาถรรพ์น้ำวน เป็นเสียงเล่าค้านจากนักเดินเรือ เมื่อต้องนำเรือผ่านกระแสน้ำนี้ ต้องมีการจุดธูปเพื่อบอกกล่าวเจ้าที่ให้ช่วยคุ้มครองให้เรือผ่านกระแสน้ำวนไปได้อย่างปลอดภัย
เผยอาถรรพ์น้ำวน กระแสน้ำหน้าวัดพนัญเชิงฯ ช่วงรอยต่อของ 2 แม่น้ำ เจ้าพระยา-ป่าสัก เรือทุกลำต้องจุดธูป เพื่อบอกกล่าวถึงจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
เผยอาถรรพ์น้ำวน กระแสน้ำที่อยู่บริเวณหน้าวันพนัญเชิงฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาบริเวณนี้เองที่มีกระแสน้ำเชี่ยวจนทำให้เกิดความเชื่อน้ำวนอาถรรพ์ และเมื่อไม่นานนี้ในบริเวณเดียวกันนี้ก็เกิดเหตุเรือลากจูงเหล็กเกิดล่มกลางแม่น้ำ คนเรือที่อยู่ในเรือก็จมหายไปกับเรือด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาก็ไม่พบ
เรือลากจูงลำที่เกิดเหตุล่มดังกล่าวนั้น มีนายสมชาย ธารกุล วัย 64 ปี พร้อมกับภรรยาคือ นางนฤมล จันทร โชติ วัย 51 ปี ที่เป็นนายท้ายเรือ ก็ได้จมไปกับเรือที่ล่ม เจ้าหน้าที่พยายามทุกวิถีทางก็ค้นหาไม่เจอ ซึ่งคาดว่าตอนนี้ได้กลายเป็นศพไปแล้ว
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมานี้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้เป็นรองอธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปที่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเดินทางมาร่วมกันในการวางแผนหาแนวทางในการค้นหาทั้งเรือยนต์และคนขับเรือพร้อมภรรยาที่จมน้ำไปด้วยกันนั้น เบื้องต้นได้มีการตกลงกันว่าจะมีการใช้เครื่องโซ่น่าสแกนเพื่อหาซากของเรือก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อตกลงกันได้แล้วเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยก็ได้ดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ จนได้พบกับซากเรือที่จมอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำกรมเจ้าท่า ชื่อ ชุดมัจฉานุ 2 นาย ก็ได้ดำลงน้ำไปสำรวจโดยทันทีทั้ง 2 นายนั้นใช้เวลาเพียงไม่นานก็ได้ขึ้นมายืนยันว่าโซ่น่าสแกนที่ตรวจเจอนั้นเป็นเรือที่จมน้ำจริง
นายพิชญ แซ่เฮง วัย 29 ปี หนึ่งในนักประดาน้ำ ได้เล่าว่า พบเรือที่จมอยู่ในสภาพนอนตะแคงไปกับแม่น้ำป่าสักซึ่งมีความลึกของน้ำอยู่ที่ 20 เมตร เมื่อดำลงไปใต้น้ำทำให้รู้ว่า กระแสน้ำที่อยู่ภายใต้นั้นมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ส่วนน้ำก็เป็นสีขุ่นทำให้ส่องไฟฉายดูสำรวจแล้วไม่พบเรือจึงแก้ปัญหาโดยการใช้มือคลำสัมผัสจนไปโดนหลังคาซากเรือดังกล่าว
นักประดาน้ำอีกคนคือนายภูริพัฒน์ ก็ได้ออกมาเล่าว่า ในการค้นหาซากเรือก็เป็นความร่วมมือกันของกรมเจ้าท่า และทีมปภ.4 เขต 4 พร้อมกับนักประดาน้ำสมาคมอยุธยารวมใจ หลังได้ใช้เครื่องโซ่น่าสแกนเพื่อตรวจหาซากเรือจนพบ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่สามารถนำเรือดังกล่าวขึ้นมาในตอนนี้ได้ เนื่องจากภายใต้แม่น้ำนั้นมีกระแสน้ำไหลที่มีความรุนแรงอย่างมากพร้อมกันนั้นเรือที่เกิดเหตุก็มีน้ำหนักมากถึง 67 ตัน
ในส่วนที่จะดำเนินงานได้เบื้องต้น นักประดาน้ำต้องลงไปช่วยกันผูกทุ่นไว้กับเรือที่จม เพื่อรอการประเมินสถานการณ์ในอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีแผนการดำเนินการต่ออย่างไรได้บ้าง จากนั้นผู้ประกอบการทางเรือได้เสนอให้มีการใช้โซ่ที่คล้องอยู่กับเรือ เพื่อใช้ลากเรือออกจากบริเวณที่จมก่อน เพื่อเป็นการเปิดทางให้เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำดำสำรวจหาร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน
จากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้กลายเป็นข่าวดัง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ก็ได้ออกมาเล่าว่า จริงๆแล้วตรงจุดที่เรือจมนั้นจะมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นทุกปี ปีละลำ กระแสน้ำบริเวณหน้าวัดพนัญเชิงฯ มีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและรุนแรงมาก ชาวบ้านและคนเรือเชื่อกันว่ากระแสเชี่ยวที่กลายเป็นน้ำวนจนเรือจมนั้น เป็นน้ำวนอาถรรพ์ สิ่งที่คนเรือรู้และต้องทำกันตลอดเมื่อต้องผ่านจุดนั้น ต้องจุดธูปเพื่อบอกกล่าวถึงจะเดินเรือผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์