เหมือนเขียนเส้นตายให้ลูก!! คิดถูกหรือคิดผิด ตัดสินใจให้ลูกป่วยติดเตียงฉีดวัคซีน อสม.มาฉีดให้ถึงบ้าน สุดท้ายสลดลูกสิ้นใจชั่วข้ามคืน

รายงานข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 กรณี แม่ตัดสินใจยอมให้ อสม.มาฉีดวัคซีนให้ลูกชายถึงที่บ้าน เหมือนเขียนเส้นตายให้ลูก!! สุดท้ายต้องเศร้าสลดไม่ทันตั้งตัว ลูกชายเสียชีวิตชั่วข้ามคืน

เหมือนเขียนเส้นตายให้ลูก!! ยอมให้ อสม.มาฉีดวัคซีนให้ลูกป่วยติดเตียงถึงที่บ้าน สุดท้ายสลดลูกสิ้นใจช่วงข้ามคืน เพิ่งไปงานศพคนอื่นมาต้องกลับมาจัดงานศพให้ลูกต่อ

เหมือนเขียนเส้นตายให้ลูก!! นางสังวาลย์ แล้วไสย์ วัย 54 ปี คุณแม่ชาวบ้านอุบล ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านใน ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น แม่ของผู้เสียชีวิตได้ออกมาเล่าว่า ลูกชายของตนป่วยติดเตียง ตนคอยดูแลลูกชายป้อนข้าวป้อนน้ำมาตลอด 10 ปี สาเหตุที่ลูกชายหรือ นายเจษฎา แก้วไสย์ วัย 31 ปี ป่วยติดเตียงกเนื่องมาจากเคยคิดฆ่าตัวตายมาก่อนด้วยการแขวนคอ แต่ครอบครัวก็ได้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน แล้วลูกชายก็มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง จึงต้องได้นอนติดเตียงเพราะไปไหนไม่สะดวก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แขน-ขาไม่มีแรง ซ้ำร้ายหมอต้องทำการเจาะคอลูกชาย เพื่อช่วยให้เขาหายใจได้ดีขึ้นพร้อมกับต้องให้อาหารเครื่องดื่มผ่านทางสายยางตั้งแต่เมื่อปี 2555

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ที่ผ่านมานี้ นางสังวาลร่ำไห้พร้อมเล่าว่า วันนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. อสม.ได้มาถามตนว่าจะให้ลูกชายฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด19 ด้วยหรือไม่ เนื่องจากลูกชายนั้นเป็น 1 ในกลุ่ม 7 โรค ตนจึงได้คิดและได้ตัดสินใจให้ลุกชายฉีด เพราะเพื่อนในหมู่บ้านคนอื่นๆก็ได้ฉีดวัคซีนกันหมดแล้ว คิดว่าถ้าลูกชายได้ฉีดวัคซีนก็จะเป็นการป้องกันด้วยว่าจะป่วยติดเตียง แต่ผู้เป็นพ่อที่ยังไม่ได้รับวัคซีนที่ต้องไปทำงานเข้า-นอกบ้านอาจติดเชื้อมาถึงลูกชายได้ ตนจึงอนุญาตให้ อสม.พร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้เดินทางมาช่วยฉีดวัคซีนให้กับลูกชายที่ป่วยติดเตียงถึงที่บ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เดินทามาถึงที่บ้าน เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการตรวจวัดความดันให้กับลูกชายเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ผลที่ออกมาความดันของลูกก็ปกติดี ก่อนมีการฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 หลังฉีดวัคฉีดมาแล้ว ลูกชายในวันนี้มีอาการไออยู่บ่อยๆครั้ง และมีเสลดติดที่ลำคอ เมื่อวัดความดันพบว่ามีความดันต่ำมากกว่าปกติ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงค่ำ อาการของลูกชายก้ยังคงไม่ดีขึ้น ขณะเดียวกันตนก็ต้องเดินทางได้ร่วมพิธีงานศพของเพื่อนบ้าน และให้สามีคอยดูแลลูกชายต่อจากตน ก่อนกลับมาบ้านได้แวะตลาดเพื่อกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม เวลา 19.00 น. ตนได้กลับมาถึงที่บ้านก้รีบไปดูลูกชาย แต่รู้สึกผิดปกติมาเนื่องจากถ้าตนจะเข้า-ออกบ้าน หรือเดินทางไปไหนมาลูกชายจะชอบกรอกตาไปมาเหมือนแสดงการรับรู้ว่าแม่กลับมาแล้วนะ แม่ออกไปข้างนอกนะ แต่มาครั้งนี้ลุกชายไม่แสดงอาการใดๆ นอนนิ่งมาก เมื่อตนได้เดินเข้าไปดูใกล้ก็พบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

นางสังวาลย์ แม่ของผู้เสียชีวิตได้เล่าต่อว่า ตนไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะที่ให้ลูกฉีดวัคซีนนั้น ตนหวังอย่างเดียวก็เพื่อให้ลูกได้มีชีวิตอยู่กับตนไปนาน และก็เป็นการฉีดวัคซีนตามนโยบายจากทางภาครัฐ ตนไม่ได้อยากโทษใครก็ต้องทำใจแม้จะเชื่อลึกๆว่าลูกตายเพราะฉีดวัคซีน และจัดงานศพลูกไปตามมีตามเกิด เนื่องจากครอบครัวค่อยข้างยากจน ก็เลยอยากให้หน่วยงานของภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย มันไม่คุ้มเลยที่การฉีดวัคซีนต้องมาสูญเสียลูกชายไปตลอดชีวิต ทั้งนี้พิธีฌาปนกิจของลูกชายก็จะจัดขึ้นในวันที่ 3 ตุลาคม 2564 ครอบครัวและบรรดาญาติก็ยังหวังว่าภาครัฐจะออกมาแสดงความรับผิดชอบและให้การช่วยเหลือในเรื่องของเงินประกันสำหรับการฉีดวัคซีนตามนโยบายของรัฐบ้าง