ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 กรณี วัดดังชุมพร แก้เคล็ดตามความเชื่อโบราณ ด้วยการสร้างร่างสมมุติหลวงตากล้วยอายุ 120 ปี เพื่อนำมาใช้เผาเป็นศพแรกในเตาเผาไฟฟ้าที่สร้างขึ้นใหม่ จากเงินที่ชาวบ้านช่วยกันบริจาคเงินนาน 4 วัน จนได้เงิน 2 ล้านนำมาสร้างเตาใหม่ใช้รองรับการเผาศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด
วัดดังชุมพร แก้เคล็ดตามความเชื่อโบราณ เผาร่างสมมุติหลวงตากล้วย 120 ปี ในเตาเผาไฟฟ้าที่สร้างใหม่ จากเดิมเป็นเตาฟืนใช้เผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิดจำนวนมาก ล่าช้าและไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
จากกรรายงานล่าสุด วัดดังชุมพร หรือ วัดสุวรรณนัทธี (วัดคูขุด) ได้ร่วมกันจัดทำพิธี แก้เคล็ดตามความเชื่อโบราณ ด้วยการทำสมมุติหลวงตากล้วย 120 ปี เผาเป็นศพแรกในเตาไฟฟ้าที่สร้างใหม่ ซึ่งหน้าวัดคูขุดมีเตาเผาศพที่ต้องใช้ฟืนจึงทำให้การเผาศพผู้ป่วยโควิดล่าช้าและไม่ทันการ
ณ ศาลากลางเปรียญ วัดคูขุด ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร พระครูบัณฑิตธรรมธาดา เจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร ก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส เพื่อเข้าร่วมพิธีสวมมาติกา พร้อมกับการสวดบังสุกุล ร่างสมมุติหลวงตากล้วย ที่ได้เสียชีวิตลงแต่ก่อนแล้วด้วยอายุ 120 ปี ซึ่งการทำพิธีในครั้งนี้ก็มีชาวบ้านจำนวนมากเข้ามาร่วมทำพิธีด้วย
“หลวงไก่” หรือ พระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ โชติปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคูขุด ท่านได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า การฌาปนกิจศพ ร่างสมมุติหลวงตากล้วย ที่จัดขึ้นในครั้งนี้นั้นก็เนื่องมาจากจากแพร่ระบาดของเชื้อโควิดที่รุนแรงทำให้มีคนตายจำนวนมาก และในเขตอำเภอเมืองชุมพรเอง มีเพียง 2 วัดที่สามารถรองรับการเผาศพผู้เสียชีวิตได้ 1.วัดโพธิการาม จะมีเตาเผาศพผู้เสียชีวิตเป็นแบบระบบไฟฟ้า 2.วัดคูขุด จะมีตาเผาศพแบบโบราณคือการใช้ฟืน แต่เนื่องด้วยในแต่ละวันมีคนตายจำนวนมากแม่วัดคูขุดจะเผาศพไปแล้ว 11 ราย แต่ก็ยังล่าช้า เพราะศพผู้เสียชีวิตนั้นมีมาเรื่อย การเผาศพด้วยฟืนเราต้องรอให้เตาผาเย็นลงก่อนค่อยเผาศพรายต่อไป เหตุนี้จึงทำให้การเผาศพล่าช้าไม่ทันการ เพราะยิ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดก็ต้องเร่งดำเนินการจะมารอนานไม่ได้ พอมีปัญหานี้เกิดขึ้นก็ได้ไปปรึกษากับลูกศิษย์ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะสร้างเตาเผาแบบระบบไฟฟ้าเราต้องใช้เงินสร้างมากถึง 2 ล้านบาท บรรดาลูกศิษย์จึงได้ตกลงกันได้ว่าจะช่วยกันระดมทุนโดยการบอกบุญต่อๆกันไป จนใช้เวลาไปเพียง 4 วันเท่านั้นก็ได้เงินบริจาคมาครอบ 2 ล้านบาท จึงได้เริ่มจัดการสร้างเตาเผาระบบไฟฟ้าฌโดยจ้างช่างรับเหมาให้มาทำให้แล้วเสร็จในเวลา 10 วันถัดมา
และเพื่อสืบทอดความเชื่อมาตั้งแต่โบราณเมื่อสร้างเตาเผาใหม่ ต้องมีการเผาผีหรือศพของบรรพบุรุษของผู้สร้างเป็นศพรายแรก ถ้าชาวบ้านเป็นผู้สร้างก็ให้นำศพบรรพบุรุษของชาวบ้านผู้นั้นมาเผา และถ้าหากวัดเป็นผู้สร้างก็ให้นำศพพระผู้ใหญ่ที่สุดของวัดมาเผาเป็นศพแรกแก้เคล็ด ทั้งนี้จะเป็นการสร้างศพขึ้นมาเป็นศพหลอกๆและใช้นามตามชื่อคนตายที่จะนำมาเผา
พระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ ได้เผยต่ออีกว่า ในการแก้เคล็ดครั้งนี้ของวัดคูขุด ได้มีการสมมุติเอานาม หลวงตากล้วย ที่ได้เสียชีวิตลงก่อนด้วยอายุ 120 ปี นำมาเผาเป็นศพแรกในเตาเผาระบบไฟฟ้าที่สร้างใหม่ โดยการนำต้นกล้วยมทำเป็นร่างศพ และเจาะเป็นรูปหน้าคน นุ่งห่มจีวรเหมือนพระทุกสิ่งอย่าง และทำพิธีบำเพ็ญกุศุลเหมือนกับพิธีที่ทำกันอย่างปกติในทางศาสนาเป็นเวลาทั้งสิ้น 2 คืน สำหรับวันที่ 3 จะเป็นพิธีสวดมาติกา บังสุกุล การวางดอกไม้จันทน์ และก็นำเข้าเตาเพื่อเผา ทั้งนี้ก็ยังจะมีการแจกของชำร่วยให้แก่ผู้ที่มาร่วมงานพร้อมทั้งโปรยทาน ตามความเชื่อแต่โบราณถ้าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้ผู้ที่ร่วมสร้างเมรุทุกท่านจะมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับชีวิต งานการก็รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า ถ้าทำการค้าขายก็ติดต่อปประสานงานได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ทั้งนี้ก็ยังจะเป็นการทดลองใช้งานเตาใหม่ด้วยว่าจะทนต่อความร้อนตามมาตรฐานได้ไหม
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์