รู้ไหมว่า!! เลือดของ “แมงดาทะเล” นั้นมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

รู้ไหมว่า!! เลือดของแมงดาทะเล สีน้ำเงินหรือ blue blood นั้นมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เพราะมีราคาสูงมากถึงลิตละ 500,000 บาท สัตว์น่ารักบางชนิดบางตระกูลเท่านั้นถึงจะมีเลือดสีฟ้า เชื่อว่าหลายคนนั้นมองว่าสีฟ้าที่ว่านั้นอาจเป็นฝีมือของมนุษย์ แต่ขอบอกเลยนะว่าไม่ใช่นี้คือสีเลือดของมันเองตามธรรมชาติ

เลือดของแมงดาทะเล “สีน้ำเงิน” หรือ blue blood นั้นมีราคาสูงถึงลิตละ 500,000 บาท

ต้องขอเล่าก่อนนะว่าเลือดสีน้ำเงินหรือ “blue blood” นั้นคือสีเลือดจากธรรมชาติที่ไม่สามารถดัดแปลงหรือปรับเปลี่ยนจากฝีมือมนุษย์ได้ เนื่องจากว่ามีหลายๆคนมองว่าเลือดสีฟ้านั้นไม่มีอยู่จริงและน่าจะถูกตบตาด้วยฝีมือของฝีมนุษย์นี้แหละ ซึ่งสัตว์หลากหลายชนิดหลากหลายตระกูลนั้นมีมากที่มีสีเลือดเป็นสีฟ้าที่ไม่ใช่สีแดงเหมือนกับเรา เช่น กุ้งหอยหมึกและกิ่งก่า

แมงดาทะเลคือหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีหน้าตาโบราณที่หลายๆประเทศไม่ค่อยให้ค่าและไม่ค่อยนำมานิยมรับประทานเหมือนฝั่งเอเชียเรา เนื่องจากว่ามันเป็นสัตว์ทะเลที่คนไม่นิยมส่วนมากถ้าได้มานั้นจะนำมาทำเป็นอย่างอื่น เช่น ทำปุ๋ย ทำเหยื่อตกปลา ซึ่งในอดีตนั้นมันไม่มีค่าเลยทางเศรษฐกิจแต่ในทางกลับกันในยุคนี้นั้นมันกลับมามีราคาสูงถึงสูงมากถึง 500,000 บาทต่อลิตร เนื่องจากว่าในยุคนี้ผู้คนนิยมนำเอาเลือดสีฟ้าน้ำทะเลของมันไปใช้ในทางการแพทย์ จนได้สมยานามว่ามันคือเลือกสิ่งมีชีวิตที่แพงที่สุดในโลก

ทำไมเลือดของมันถึงมีมูลค่ามากขนาดนั้น มีสรรพคุณอะไรกัน?

หลายคนนั้นยังไม่ทราบว่าเลือดของแมงดาทะเลนั้นมีสารบางอย่างอยู่ในนั้นที่มีสรรพคุณในการตรวจหาเชื้อโรคที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะสีน้ำเงินน้ำทะเลของมันนี้แหละที่เป็นตัวสำคัญ และที่มันมากประโยชน์ขนาดนั้นมันมีสาเหตุมากจาก พวกมันนั้นอาศัยอยู่ในน้ำที่ตื้น แน่นอนว่าถ้าน้ำติ้นมันก็จะต้องไม่สะอาดและน่าจะมากไปด้วยเชื้อโรค ดังนั้นแมงดาทะเลมันเลยได้ทำการพัฒนาการสร้างเซลล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมา เพื่อเอาไว้ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้ามาในเลือดของมัน

ซึ่งเลือดของมันนั้นจะทำหน้าที่ทันทีเมื่อมันเจอกับเชื้อโรค หน้าที่ที่ส่านั้นก็คือมันจะทำการส้รางเจลห่อหุ้มเชื้อโรคเอาไว้ทันทีที่ตรวจเจอ ซึ่งนี้คือวิธีการดักเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ เหตุผลที่มันทำได้ขนาดนี้นั้นเป็นเพราะว่า ส่วนประกอบในเลือดของมันนั้นมีโมเลกุลของทองแดงเป็นหลัก ซึ่งเจ้านี้คือตัวที่ทำให้เลือดเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งสัตว์ทุกประเภทที่มีเลือดสีน้ำเงินนั้นเหมือนกันทุกชนิด ต้องขอบอกเลยนะว่าเลือดสีน้ำเงินที่มีราคาแพงๆนี้ ถูกนักวิจัยค้นพบมานานมากกว่า 50 ปี แล้ว โดยในอดีตนั้นพวกมันไม่มีค่าและไม่มีราคา แตกต่างจากปัจจุบันลิบลับที่มีราคาสูงเนื่องจากมีการนำเลือดของพวกมันนั้นมาพัฒนาใช้ในทางการแพทย์อย่างจริงจังขึ้นเรื่อยๆ

ต้องขอบอกเลยนะว่าสารที่ได้จากเลือดของแมงดาเพียงเล็กน้อยที่นำมาทำเป็นตัวกรองเชื้อโรคในการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆในทางการแพทย์นั้นสามารถทำหน้าที่ได้ดีมากกว่าสารชนิดอื่นๆ เพราะว่าเลือดของแมงดาทะเลนั้นช่วยเช็คความชัวร์ให้ความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าเดิม แค่เพียงฆ่าเชื้อนั้นไม่เจ๋งมากเท่าไหร่ เพราะมันนั้นสามารถนำไปทำงานวิจัยในการทดลองได้มากกว่า เนื่องจากว่าเลือดของเจ้านี้นั้นมันสามารถนำมาพัฒนาเป็นยารักษาโรคและยาต้านไวรัสชนิดอื่นๆได้เช่น โรคมะเร็งได้ และรวมไปถึงวัคซีน COVID-19 ที่เรานั้นได้ใช่ในทุกวันนี้นั้นก็มาจากเลือดของแมงดาทะเลสีฟ้านี้แหละในการตรวจทานว่าเชื้อโรคที่อยู่ในยานั้นตายหมดจริงหรือเปล่า และที่นี้น่าจะไขปัญหาปริศนาคาใจหลายๆคนได้แล้วว่าทำไมราคาเลือดของเจ้านี่ทำไมถึงแพงหนักหนา

แต่นั่นก็ทำให้เป็นภัยต่อแมงดาทะเล

เพราะว่าแมงดาทะเลในอ่าว Delaware ของอเมริกานั้นมีจำนวนประชากรของมันลดลงมากถึง 75-90 เปอร์เซ็นต์ ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา แม้ระยะเวลาในการนำเลือดของพวกมันมาใช้นานมากกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนวิธีการนำเลือดของมันมาใช้นั้นทางนักวิจัยทำคล้ายกันกับการบังคับให้พวกมันบริกจาคเลือดแล้วปล่อยมันลงคืนสู่บ้าน แต่ในการปล่อยมันกลับบ้านนั้นมีพวกมันจำนวนน้อยที่สามารถกลับบ้านได้รอดอย่างปลอดภัย เพราะส่วนมากนั้นมันมักตายไปสะก่อนถึงบ้าน ดังนั้นนักวิจัยเลยได้ทำการคิดค้นวิธีการหาทางแก้ไข้ทำให้มันมีชีวิตอยู่ได้นานๆหลังจากที่ดูดเลือดของมันมาใช้งาน

ทำไมแมงดาประเทศไทยไม่จับมาดูดเลือดขาดบ้างละ

ต้องขอบอกเลยว่ามันคือแมงดาคนละสายพันธุ์ที่นำมาใช้ในทางการแพทย์แม้มันจะมีเลือดสีฟ้าเช่นกันก็ตาม ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ไม่สามารถนำมาทำขายได้เหมือยของต่างประเทศนั้นอาจจะเป็นเพราะว่า เทคโนโลนีของเรานั้นอาจไม่ล้ำสมัยเท่าของต่างชาติ และการเข้าถึงความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงสารต่างๆของบ้านเรานั้นอาจจะยังไม่เข้าใจมากพอ ดังนั้นแมงดาทะเลของบ้านเรานั้นจึงเป็นที่นิยมในร้านอาหารมากกว่าในห้องทดลองเหมือนต่างชาตินั้นเอง