คนถูกผีสิงพุ่งสูงขึ้น มากจนบาทหลวงนักไล่ผี burnout ต้องขอแรงจาก “นักจิตวิทยา” เข้ามาช่วยวินิจฉัยอาการ

คนถูกผีสิงพุ่งสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากหลาย จนส่งผลให้บาทหลวงนักไล่ผีพบเจอกับอาการ burnout และในที่สุดต้องขอแรงจาก “นักจิตวิทยา” เข้ามาช่วยวินิจฉัยอาการ เพราะไล่ผีจนเหนื่อยมากแล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลึกลับที่ภูตผีปีศาจเข้าสิงจริงๆหรือมาจากภาวะความเครียดกันแน่

คนถูกผีสิงพุ่งสูงขึ้น มากจาก 2-3ปีที่ผ่านมาจนบาทหลวงหมดไฟในการไล่ผีเพราะไม่รู้ผีสิงจริงงหรือคิดไปเอง

เมื่อช่วงสิ้นเดือนที่แล้วสื่อต่างประเทศนั้นได้รายงานข่าวที่น่าจะทำให้หลายๆคนตกใจ และข่าวที่ว่านั้นก็คือ มีบาทหลวงจำนวนหนึ่งที่ทำหน้าที่ไล่ผีกำลังพบเจอกับภาวะหมดไฟในการไล่ผีในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากในแต่ละวันมีคนมากมายถูกผีเข้าสิงจนไม่สามารถแยกออกได้ว่าคือผีจริงๆหรือแค่ภาวะความเครียด

เมื่อปี 2018 ข่าวออกมาว่ารัฐวาติกันที่อยู่ในสหราชอาณาจักรที่ขึ้นชื่อว่าคือศูนย์รวมอำนาจของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก นั้นได้มีการเพิ่มปริมาณการฝึกอบรมนักไล่ผี เพราะจากสถิติการถูกผีสิงนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แถมว่าการถูกผีสิงยังลุกลามไปประเทศใกล้เคียงอย่างไอร์แลนด์และอังกฤษ จน priestthe นิกาย English Church กันและ นิกาย Orthodox

ต้องเดินทางไปเข้าร่วมอบรมฝึกการไล่ผีที่รัฐวาติกันด้วยกัน บาทหลวงที่ได้รับการฝึกอบรมไล่ผีทุกคนยังได้รับอนุญาตจากวาติกันให้ทำพิธีกรรมปราบผีได้ และนี่มันสื่อให้เห็นเลยว่าช่วงสองสามปีที่ผ่านมาประชาชนนั้นถูกผีเข้าสิงเป็นจำนวนมากขึ้น จนถึงขั้นที่บาทหลวงและนักจิตวิทยาและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องเข้ามาทำงานร่วมกัน เนื่องจากต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าแต่ละคนนั้นถูกผีเข้าสิงจริงๆหรือมาจากอาการทางจิตที่เกิดขึ้นจากสิ่งต่างๆ

ส่วนอาการที่บ่งบอกว่าคือผีเข้าสิงจริงๆตามที่บาทหลวงกล่าวมานั้นก็คือ จะมีอาการมีเรี่ยวมีแรงมากหรือน้อยมากจนเกินไป และในยางกรณีอาจจะมีความสามารถแปลกๆเกิดขึ้นอย่างเช่น สามารถพูดภาษาแปลกๆที่ดูโบราณๆ มาจากถิ่นฐานอื่นได้อย่างเช่นภาษาละติหรือฮีบรู และอาจะมีอาการอ้วกออกมาด้วย แต่ถ้าอ้วกแล้วไม่มีอาการเมื่อข้างต้นที่พูดมานั้นก็คือไม่ใช่ผีสิงแต่อาจจะเป็นเพราะป่วย

ถึงแม้เรื่องผีสิงจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแต่มีนักวิจัยบางรายนั้นมองว่า คนบางกลุ่มในใช้คำว่า “ผีสิง” เอาไว้กดขี่หรือล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนกลุ่มที่ไม่มีทางสู้ประเภทเด็กและหญิงสาว ซึ่งสองกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มักพบเจอว่าถูกผีสิงยู่เป็นประจำ

อย่างเช่นหนึ่งกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เรื่องราวครั้งนี้เกิดกับเด็กหญิงชาวอเมริกันวัย 3 ขวบที่เธอถูกมองว่าถูกผีสิงและทางครอบครัวได้นำตัวไปไล่ผีกับบาทหลวงจนเธอเสียชีวิต และในเวลาต่อมาแม่ของเด็ดคนนั้นก็ถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมเด็กจนทำให้เด็กถึงแก่ความตายทันที ส่วนสาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ท่าการสอบถามว่าทำไมถึงต้องพาเธอไปนั้นคือ เด็กหญิงคนนี้มักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนแล้วทำการร้องโวยวานอย่างต่อเนื่องเพียงแค่นี้