สะเทือนวุฒิสภา: สว.หมอเกศเข้าข่าย เรื่องร้อนแวดวงการเมือง สะเทือนวงการการศึกษาไทย กลายเป็นกระแสการเมืองร้อนแรงทันทีในเช้าวันนี้ เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องไปยัง ศาลฎีกา เพื่อวินิจฉัยการ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ สว.หมอเกศ หรือ นพ.หญิงเกศรินทร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างความฮือฮาจากการอ้างวุฒิการศึกษาระดับด็อกเตอร์จาก University of California จนได้รับความไว้วางใจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมาก
งานเข้า ส.ว.หมอเกศ! กกต. ส่งศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ปมปริญญาปลอม
แต่แล้ว เรื่องกลับพลิกเมื่อมีการตรวจสอบพบว่า วุฒิการศึกษาที่อ้างว่าได้รับจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย อาจไม่มีอยู่จริง หรือไม่ตรงตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในหลักฐานทางการศึกษา ส่งผลให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ และนำไปสู่การพิจารณาทางกฎหมายในที่สุด
ดราม่าการเมือง กับคำถามเรื่อง “ด็อกเตอร์ปลอม”
การที่ กกต. ลงมติให้ส่งเรื่องนี้ต่อ ศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่เพียงแค่กระบวนการตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความจำเป็นที่นักการเมืองต้องยึดมั่นในความโปร่งใส ข่าวการเมืองโดยเฉพาะในเรื่องของการแสดงวุฒิการศึกษา เพราะหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการ หลอกลวงหรือจงใจให้เข้าใจผิดเพื่อให้ได้รับตำแหน่ง ย่อมเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ และอาจนำไปสู่การเพิกถอนตำแหน่งย้อนหลังได้
การใช้คำว่า “จบด็อกเตอร์ปลอม” กลายเป็นแฮชแท็กติดเทรนด์ใน Twitter อย่างรวดเร็ว โดยมีทั้งนักวิชาการ ประชาชน และนักการเมืองรุ่นใหม่ร่วมแสดงความเห็น พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบวุฒิของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด เพื่อป้องกันกรณีแบบนี้เกิดซ้ำ
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย โดนลากเข้าเรื่อง
แม้ชื่อเสียงของ University of California จะโด่งดังในระดับโลก แต่กรณีนี้กลับทำให้เกิดความเข้าใจผิด และนำไปสู่การตรวจสอบว่า สว.หมอเกศ อ้างชื่อคณะ หรือสาขาวิชาใดบ้างจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งล่าสุดยังไม่มีการเปิดเผยเอกสารใดที่สามารถยืนยันการจบการศึกษาตามที่กล่าวอ้างได้อย่างเป็นทางการ
การอ้างชื่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศในประเทศไทยเพื่อสร้างเครดิตไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในยุคที่การตรวจสอบทำได้ง่ายขึ้นด้วยระบบออนไลน์ การกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานยิ่งทำให้เรื่องบานปลายและกระทบต่อภาพลักษณ์ในวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โทษหนักแค่ไหน? หากศาลฎีกาชี้ขาดว่า “หลอกลวง”
ในทางกฎหมาย หากศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่า สว.หมอเกศ มีเจตนาหลอกลวงหรือจงใจทำให้เข้าใจผิดในวุฒิการศึกษา อาจส่งผลให้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 10 ปี และอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิทางการเมืองอื่น ๆ รวมถึงการดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐในอนาคต
นอกจากนี้ อาจมีผลในทางแพ่งหรือทางอาญาหากมีการพบว่าการปลอมแปลงเอกสารเกิดขึ้นจริง โดยในอดีตเคยมีกรณีคล้ายกันที่ผู้สมัครสภาฯ ถูกตัดสิทธิ์และดำเนินคดีจากการใช้ วุฒิการศึกษาปลอม
สังคมเรียกร้องความชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้
จากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครก่อนการเลือกตั้งนั้นเข้มงวดพอหรือไม่ และควรมีระบบที่เปิดเผยข้อมูลการศึกษาอย่างโปร่งใสต่อสาธารณชนหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกหลอกลวงในอนาคต
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ติดตามข่าวการเมืองและองค์กรภาคประชาชนบางส่วนเริ่มเสนอให้มีการแก้ไข กฎหมายเลือกตั้งและคุณสมบัติของผู้สมัคร เพื่อเพิ่มระดับความโปร่งใส โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือประวัติการทำงานที่ผ่านมา
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์ | Gclub | จีคลับ | Sbobet | Sbobet9