รัฐประหารซูดาน !! ทหารยุบรัฐบาลพลเรือน จับกุมผู้นำทางการเมือง ประกาศภาวะฉุกเฉิน

ข่าวต่างประเทศ แกนนำรัฐประหาร พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ บูร์ฮาน ตำหนิการต่อสู้ประจัญบานทางการเมือง การประท้วงได้ปะทุขึ้นในหลายเมืองรวมถึงเมืองหลวงคาร์ทูม มีผู้เสียชีวิต 3 รายหลังจากถูกกองกำลังติดอาวุธยิง ผู้นำทางทหารและพลเรือนต่างขัดแย้งกันตั้งแต่ผู้ปกครองโอมาร์ อัล-บาชีร์ ถูกโค่นล้มเมื่อสองปีก่อน ผู้ประท้วงจำนวนมากอยู่บนถนนในเมืองหลวงเพื่อเรียกร้องให้คืนการปกครองแบบพลเรือน

รัฐประหารซูดาน !! ทหารยุบรัฐบาลพลเรือน จับกุมผู้นำทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวของเราคาดการณ์ว่าผู้ประท้วงจะเข้าร่วมกับฝูงชนมากขึ้นหลังจากเรียกร้องให้มีการดำเนินการจากพรรคการเมืองและสหภาพแรงงานมืออาชีพ แพทย์ปฏิเสธที่จะทำงานในโรงพยาบาลและสถาบันต่างๆ ภายใต้การปกครองของทหาร ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน เขากล่าวเสริม

Sawsan Bashir ผู้ประท้วงรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าว AFP ว่า “เราจะไม่ทิ้งท้องถนนจนกว่ารัฐบาลพลเรือนจะกลับมาและการเปลี่ยนแปลงจะกลับมา”

“เราพร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยในซูดาน” Haitham Mohamed เพื่อนผู้ประท้วงกล่าว

กองทัพบกและกองกำลังกึ่งทหารได้รับมอบหมายทั่วคาร์ทูม สนามบินของเมืองถูกปิด และเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกระงับ อินเตอร์เน็ตยังล่ม

คณะกรรมการแพทย์กลางซูดานเขียนข้อความว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และบาดเจ็บ 80 คน ผู้เสียชีวิตถูกทหารยิงเสียชีวิต

คลิปวิดีโอจากคาร์ทูมเมื่อวันจันทร์ แสดงให้เห็นกลุ่มใหญ่ตามท้องถนน รวมถึงผู้หญิงจำนวนมาก สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางของยางรถยนต์ที่กำลังลุกไหม้ โดยมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นตามส่วนต่างๆ ของเมือง

“มีความตึงเครียดและความรุนแรงเช่นกัน เพราะผู้คนพยายามไปที่กองบัญชาการทหาร พวกเขาถูกยิง” Duaa Tariq ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนกล่าวเสริมว่ามีความหวาดกลัวและสับสนบนท้องถนน แต่ยังมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างผู้ประท้วง ผู้นำโลกตอบโต้ด้วยความตื่นตระหนกต่อการเคลื่อนไหวของกองทัพ

อยู่ภายใต้การจับกุม

นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ ฮัมดอก และภริยา เป็นหนึ่งในผู้ถูกควบคุมตัวและถูกกักบริเวณในบ้าน พร้อมกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีและผู้นำพลเรือนคนอื่นๆ ไม่ทราบที่อยู่ของพวกเขา

พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลชั่วคราวที่ออกแบบมาเพื่อนำซูดานไปสู่ประชาธิปไตยหลังจากการปกครองของอดีตประธานาธิบดี อุมัร อัลบะชีร
มีรายงานว่า นายฮัมดอกถูกกดดันให้สนับสนุนการทำรัฐประหารแต่ปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น และเขากลับเรียกร้องให้ประชาชนดำเนินการประท้วงอย่างสันติเพื่อ “ปกป้องการปฏิวัติ” แทน

พล.อ. บุรฮาน เป็นผู้นำการจัดการแบ่งปันอำนาจระหว่างผู้นำทางทหารและพลเรือน หรือที่เรียกว่าสภาอธิปไตย ในการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ เขากล่าวว่าการต่อสู้แบบประจัญบานระหว่างนักการเมือง ความทะเยอทะยาน และการยุยงให้ใช้ความรุนแรง ทำให้เขาต้องดำเนินการเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประเทศและเพื่อ “แก้ไขแนวทางการปฏิวัติ” เขากล่าวว่าซูดานยังคงยึดมั่นใน “ข้อตกลงระหว่างประเทศ” และการเปลี่ยนไปสู่การปกครองแบบพลเรือน โดยจะมีการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566

แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสจากสำนักนายกรัฐมนตรี Adam Elhiraika กล่าวว่าการทำรัฐประหารอาจทำให้ซูดานกลับสู่สงครามกลางเมือง โดยเสริมว่าความเสี่ยงนั้น “สูงมาก”
แม้ว่าซูดานจะยังอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจที่หนักหน่วง แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติมากขึ้น การปฏิวัติทางทหารจะทำให้สิ่งนั้นตกอยู่ในความเสี่ยง

การทรยศ

โรเบิร์ต แฟร์เวเธอร์ ทูตพิเศษของสหราชอาณาจักรสำหรับซูดานและเซาท์ซูดาน ทวีตว่าการจับกุมผู้นำพลเรือนโดยทหารเป็น “การทรยศต่อการปฏิวัติ การเปลี่ยนแปลง และชาวซูดาน”

สหภาพแอฟริกา ซึ่งซูดานเป็นสมาชิกอยู่กล่าวว่า พวกเขาได้เรียนรู้ด้วย “ความผิดหวังอย่างยิ่ง” ต่อสถานการณ์และเรียกร้องให้ “เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มงวด”
สหรัฐ สหภาพยุโรป สหประชาชาติ และสันนิบาตอาหรับได้แสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งเช่นกัน

หน่วยงานเฉพาะกาลของทหารและพลเรือนได้ปกครองร่วมกันตั้งแต่ปี 2019 เมื่อประธานาธิบดี Bashir ถูกโค่นล้มหลังจากการประท้วงบนท้องถนนเป็นเวลาหลายเดือน ข้อตกลงแบ่งปันอำนาจระหว่างกองทัพกับกลุ่มพันธมิตร – กองกำลังเพื่อเสรีภาพและการเปลี่ยนแปลง – ได้เห็นการเปิดตัวของสภาอธิปไตย มีกำหนดจะปกครองประเทศต่อไปอีกปี โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดการเลือกตั้งและเปลี่ยนไปสู่การปกครองแบบพลเรือน แต่ข้อตกลงนี้มักจะไม่ราบรื่นนัก โดยมีกลุ่มการเมืองที่เป็นคู่แข่งกันจำนวนมาก และมีความแตกแยกในกองทัพด้วย

ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นต่อไปหลังจากที่มีความพยายามในการทำรัฐประหารมาประกอบกับผู้ติดตามของนายบาชีร์เป็นเยี่ยงอย่างในเดือนกันยายน ซูดานไม่พบระบบการเมืองที่ใช้การได้ตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2499 และได้เห็นถึงทำการรัฐประหาร ก่อนจะพยายามทำรัฐประหารหลายครั้ง

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความตึงเครียดก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในคาร์ทูม การยึดอำนาจอย่างไม่เป็นมิตรคือสิ่งที่หลายคนในซูดานและประเทศอื่นๆ กลัวว่าจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สัญญาณมีความชัดเจนเกินไป

ทหารสนับสนุนที่นั่งหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในคาร์ทูมถูกมองว่าออกแบบท่าเต้นเพื่อนำไปสู่การรัฐประหาร ไม่มีการพยายามปิดบังจุดประสงค์ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ทหารโค่นล้มผู้นำพลเรือนที่ “ล้มเหลว” เป็นความพยายามที่ไม่ธรรมดาในการทำให้รัฐบาลเข้ายึดครองโดยชอบธรรม โดยใช้หน้ากากของการประท้วงที่ได้รับความนิยม
เกือบหนึ่งสัปดาห์ต่อมา มีการประท้วงต่อต้าน คราวนี้ฝูงชนจำนวนมากออกมาสนับสนุนรัฐบาลพลเรือน ด้วยการประท้วงที่เรียกร้องโดยกลุ่มที่สนับสนุนประชาธิปไตยมากขึ้นเพื่อ “ต่อต้านการรัฐประหาร” ซูดานอาจถูกกำหนดให้เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งของการประลองระหว่างกองกำลังติดอาวุธและประชาชน

ประเทศมีความก้าวหน้าอย่างมากในการทำให้ความสัมพันธ์กับตะวันตกเป็นปกติและปลดล็อกแหล่งเงินทุนที่จำเป็นมาก คำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยทำให้ชาวซูดานและพันธมิตรของประเทศหลายคนมีความหวัง แต่ทั้งหมดที่อาจมีความเสี่ยงในขณะนี้