Jack Dorsey โบกมือลาจากเก้าอี้ ‘CEO’ อย่างเป็นทางการ

Jack Dorsey ข่าวต่างประเทศกำลังกล่าวถึงการ ‘ลาออก’ จากหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงของทวิตเตอร์ พร้อมเผยผู้บริหารคนใหม่ที่ได้รับความไว้วางใจจากดอร์ซีย์

Jack Dorsey ผู้บริหารระดับสูงของ Twitter ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว

Jack Dorsey หนึ่งในบุคคลที่ร่วมก่อตั้ง Twitter จะขออำลาจากหน้าที่ ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท’ เขาได้เผยว่า Parag Agrawal ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนปัจจุบัน จะเป็นผู้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนเขา

“ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องจากไป” เขาได้เขียนในแถลงการณ์ต่อบริษัท “พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป”

นายดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ในปี 2549 และเป็นผู้อยู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทั้ง Twitter พร้อมกับบริษัทชำระเงิน Square ได้กล่าวว่าเขามีความไว้วางใจ “อย่างลึกซึ้ง” ที่จะมอบหมายหน้าที่ให้แก่คนใหม่ “ผมรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับทักษะ หัวใจ และจิตวิญญาณของเขา ถึงเวลาที่เขาจะต้องเป็นผู้นำ” เขากล่าว

ว่าที่ CEO คนใหม่อย่าง Agrawal เข้าร่วม Twitter ในปี 2011 และมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2017

‘I love Twitter’

นายดอร์ซีย์ท้าทายการประชุมขององค์กรด้วยการใส่จิวจมูก ไว้เครายาว รวมถึงเปลี่ยนวิถีสุขภาพ แต่เขาก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนักลงทุน ซึ่งรู้สึกว่า Twitter ไม่ได้รับการโฟกัสอย่างที่ควรในขณะที่เขาทำงาน Square ไปด้วย

จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณดอร์ซีย์ทวีตโดยไม่บอกไม่กล่าว และค่อนข้างคุมเครือว่า “ฉันรักทวิตเตอร์”

I love twitter

— jack⚡️ (@jack) November 28, 2021

ในข้อความแยกต่างหากที่ส่งถึงแถลงการณ์ของบริษัทอย่างเป็นทางการ นายดอร์ซีย์ทวีตว่า “ไม่แน่ใจว่าจะมีใครเคยได้ยิน แต่ฉันลาออกจาก Twitter แล้ว”

“มีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับความสำคัญของบริษัทที่มี ‘ผู้ก่อตั้งนำหน้า’ ในท้ายที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่านั่นเป็นการจำกัดอย่างร้ายแรงและเป็นจุดล้มเหลวเพียงจุดเดียว” เขาเขียนในอีเมลแนบที่เขาส่งถึงพนักงาน และยังเสริมว่าเขาจะออกจากการเป็นคณะกรรมการทันที่หลังจากหมดวาระนี้แล้ว พร้อมทิ้งท้ายถึงความไว้วางใจให้ Parag ขึ้นเป็นผู้นำ

หลังข่าวลือเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ราคาหุ้นของ Twitter ก็พุ่งสูงขึ้น แต่ก็ตกต่ำลงในบ่ายต่อมา

ราชานกฟ้า

Victoria Scholar นักวิเคราะห์การลงทุนของ Interactive Investor ได้เผยว่าว่าการพัฒนาดังกล่าวไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับสมาชิกคณะกรรมการของ Twitter มากนัก เพราะมีรายงานว่าเตรียมที่จะบอกลาดอร์ซีย์ตั้งแต่ปีที่แล้ว

การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่า “เป็นวิธีที่ Twitter จะพลิกโฉมหน้าใหม่และเสี่ยงมากขึ้น” เธอกล่าว

Mike Solana หัวหน้ากองทุนผู้ก่อตั้งกองทุน the private equity กล่าวว่า “ผู้คนมักจะพูดถึงดอร์ซีย์กับการเซ็นเซอร์ Twitter แต่ความรู้สึกของฉันคือ เขาได้ทำในสิ่งที่เขาทำได้จริงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อให้แพลตฟอร์มนี้เปิดกว้างยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะยิ่งแย่ลงหากไม่มีเขา และมันจะไม่ดีขึ้น เขาคือราชาแห่งนกฟ้า” ไมค์กล่าวเสริม

แจ็ค ดอร์ซีย์ เป็นถึงมหาเศรษฐีพันล้าน ที่ได้ก่อตั้งบริษัทที่ได้รับความสำเร็จอย่างสูงสองแห่งคือ Twitter และ Square แต่เขาก็มักจะสวมเสื้อยืดมัดย้อมและสวมเคราเหมือนพ่อมดอยู่เสมอ คนที่มีจิตใจเป็นฮิปปี้ และมีอุดมคติสูงว่าเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนโลกให้ดีได้อย่างไร เช่นกรณี Bitcoin เขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าสิ่งนี้มีความสามารถในการสร้าง “สันติภาพของโลก” และด้วย Twitter เขาได้เปลี่ยนแปลงโลกอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะ มันเป็นวิธีที่นักการเมืองสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และวิธีการสื่อสารข่าวกับสาธารณชน ยกตัวอย่างที่รู้จักกันดีคือ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐที่เป็นประชานิยมใช้เวทีนี้เป็นช่องทางสำคัญในการเลี่ยงสื่อวิถีดั้งเดิม

ดอร์ซีย์กำลังปลดปล่อยตัวเองออกจากบริษัท ละทิ้งที่นั่งในบอร์ดบริหาร เขาอ้างว่านี่คือการตัดสินใจของเขา แต่สำหรับบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ อาจมีเบื้องหลังมากกว่านี้ เขาอยู่ในวัย 40 กลาง ๆ และยังมีความทะเยอทะยานอันสูงส่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลก กับประวัติของเขา เขาอาจจะทำแบบนั้นได้อีกครั้ง

การเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีกหลายประการในคณะกรรมการของ Twitter รวมถึงการแต่งตั้ง Bret Taylor สมาชิกคณะกรรมการ Twitter ที่มีอยู่ และผู้มีประสบการณ์ของ Google และ Salesforce เป็นประธานคนใหม่

“ผมอยากจะขอบคุณแจ็คสำหรับความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และการอุทิศตนให้กับ Twitter อย่างไม่ลดละนับตั้งแต่ก่อตั้ง” นายเทย์เลอร์กล่าว “แจ็คกลับมาที่ Twitter และเปลี่ยนบริษัทในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ความคืบหน้านับแต่นั้นก็ไม่มีอะไรน่าเหลือเชื่อแม้แต่น้อย เขาได้มอบบางสิ่งอันล้ำค่าให้กับโลก และเราจะดำเนินการต่อไป”

การตัดสินใจที่จะก้าวเดินต่อไปของดอร์ซีย์อาจจะนำการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มาสู่ Twitter และโลกใบนี้อย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป