ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 กรณี รพ.สัตว์ย่านท่าอิฐ ไล่ออกผู้ช่วยแพทย์หญิง หลังมาลางานเพื่อเดินทางไปฝากครรภ์ ผู้ช่วยแพทย์คล่องใจนัทนายโป้งเก็บหลักฐานเข้ายื่นสำนักงานแรงงาน
ล่าสุด ผู้ช่วยแพทย์หญิง รพ.สัตว์ย่านท่าอิฐ พร้อมทนายโป้งได้ยื่นเรื่องสำนักงานแรงงาน หลังถูกไล่ออก!! เพราะลาไปฝากครรภ์
น.ส.เพ็ญพิไล วัย 28 ปี ผู้ช่วยแพทย์หญิง ที่ทำงานใน รพ.สัตว์ย่านท่าอิฐ ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ถูกไล่ออกเพราะลาไปฝากครรภ์เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา จึงได้แจ้งเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นแก่ ทนายโป้ง หรือ นายเกียรติคุณ ต้นยาง และให้ข้อมูลต่อว่าเมื่อวันที่ 13 กันยายน น.ส.เพ็ญพิไล ยังได้รับใบเตือนจากทางรพ.สัตว์ที่ทำงานและถัดมาอีกหนึ่งวัน 14 กันยายน นายจ้างก็ส่งใบลาออกมาให้ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจเดินทางเพื่อมาพบทนายโป้งขอความเป็นธรรมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 กันยายน 2564 ทนายโป้ง และน.ส.เพ็ญพิไล 28 ปี ผู้ช่วยสัตวแพทย์ ที่ถูกไล่ออกจากงานเพราะลาไปฝากครรภ์ ได้เดินทางนำหลักฐานในการจดหมายเลิกจ้าง พร้อมกับบันทึกประจำวัน และเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ ยื่นเรื่องต่อสำนักงานแรงงาน สวัสดิการและการคุ้มครองแรงงานประจำจังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ก็เพื่อมาขอความเป็นธรรมกับเหตุที่เกิดขึ้นมันไม่สมเหตุสมผล
น.ส.เพ็ญพิไล ที่มีอาชีพเป็นผู้ช่วยแพทย์ ได้กล่าวว่า วันนี้ตนจะมายื่นเรื่องให้กับกรมแรงงานตรวจสอบนายจ้างที่จ้างต เพื่อขอความยุติธรรม โดยที่ตนได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดมายื่นก็เพราะรู้ว่านายจ้างตนมีเส้นสายรู้จักคนเยอะ ก่อนหน้านี้นายจ้างได้มีการท้าถ้าตนอยากได้ความยุติธรรมก็ไปฟ้องกรมแรงงานเอาเอง ตนมีตัวคนเดียวและยังมีลูกที่อยู่ในท้องต้องการความยุติธรรมจึงมายื่นเรื่องกับกรมแรงงานตามที่นายจ้างบอก และนายจ้างยังเคยบอกตนอีกด้วยอย่างมาที่ทำงานอีกไม่งั้นจะแจ้งตำรวจจับข้อหาบุกรุก ทั้งนี้ตนได้ทำงานเกิน 120 วัน และได้เป็นพนักงานประจำแล้วแต่พอรู้ว่าแพ้ท้องจึงลางานไปฝากครรภ์ แต่นายจ้างไล่ออกทำให้รู้สึกว่าคนท้องทำงานมันผิดหรือ ตอนนี้ตนก็เดือดร้อนจากการว่างงานทั้งยังมามีลูกก็อยากจะร้องขอความยุติธรรม ทั้งยังอยากจะทำให้เพื่อนๆที่ท้องเห็นว่าแม้เราจะท้องก็สามารถร้องความยุติธรรมได้ไม่สมควรที่จะมาถูกไล่ออก
น.ส.เพ็ญพิไล ได้กล่าวต่อไปอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมาถ้าตนมีเหตุให้ต้องลางานตนจะแจ้งล่าวงหน้าต่อนายจ้างมาโดยตลอด ยกเว้นกรณีที่ตนไม่สบายกะทันหัน และในการลางานทุกครั้งตนก็จะมีใบรับรองแพทย์มาแจ้งยืนยันด้วย สำหรับวันเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปฝากครรภ์ที่รพ.ในตัวกรุงเทพ เพื่อเลี่ยงจะเข้าไปที่รพ.ในเขตนนทบุรีเพราะมีคนติดเชื้อโควิดมารักษาอาการป่วยเป็นจำนวนเยอะ แต่ขณะเดินทางตนก็รู้สึกว่ามีคนติดตามตนมาโดยตลอดการเดินทาง ทำให้ตนรู้สึกว่าถูกล่วงละเมิดเกินไปแล้ว ตนก็ได้ส่งหลักฐานซึ่งเป็นภาพอัลตร้าซาวด์ที่ได้จากรพ.ในกรุงเทพที่ตรวจส่งให้นายจ้างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับนายจ้าง แต่มาถูกไล่ออกมันไม่ยุติธรรม จึงวอนขอความเป็นธรรมแก่ตนและลูกในท้องด้วย
ในส่วนของทนายโป้ง ได้เปิดเผยว่า ได้มีการเดินทางไปยื่นเอกสารกับกรมแรงงานประจำจังหวัดนนทบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ไปก็จะมีเจ้าพนักงานจากกรมแรงงานเข้ามาตรวจสอบและสอบสวนกับนายจ้าง เนื่องจากได้มีการส่งหนังสือไปแจ้งทางนายจากด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนายจ้างได้รับความผิดตามมาตราที่ 43 ตามที่ผู้เสียหรือลูกจ้างกล่าวหา จึงจะต้องมีการลงโทษนายจ้างตามมาตรา 144 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานในปี พ.ศ. 2541 และจะมีหนังสือเพื่อเชิญนายจ้างให้เข้ามาชี้แจ้งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในขั้นตอนต่อไป และถ้าหากว่าคำชี้แจ้งของนายจ้างไม่มีความสมเหตุสมผลไม่ไม่ขึ้นก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาในมาตรา 144 ซึ่งจะมีโทษเข้ารับการจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับเงินไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในเบื้องต้นสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนนทบุรีได้ออกมามอบเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับถุงยังชีพแก่น.ส.เพ็ญพิไล อดีตผู้ช่วยสัตวแพทย์ เพื่อจะได้เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนลงมาได้บ้าง
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์