Tuesday, 26 November 2024

Pitted Keratolysis โรคเท้าเป็นรูเกิดจาก การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ไม่เป็นอันตรายแต่อาจส่งกลิ่น “เหม็น” มารบกวนจิตใจภายนอกเท่านั้น

02 Aug 2022
720

โรคเท้าเป็นรูเกิดจาก อะไร? แล้วจะจัดการอย่างไรดีเมื่อเกิดขึ้นกับเรา รูที่เท้ามีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ bacteria ที่มีชื่อว่า Corynebacteria และเชื้อชนิดอื่นๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่ากายแต่อาจส่งกลิ่น “เหม็น” มารบกวนจิตใจภายนอกเท่านั้น และที่จมูกของคนอื่นเท่านั้น

สล็อต xo Slotxo

โรคเท้าเป็นรูเกิดจาก อะไร? แล้วจะจัดการอย่างไรดีเมื่อเกิดขึ้นกับเรา

โรคเท้าเป็นรูเกิดจาก-อะไร?

Pitted Keratolysis โรคเท้าเป็นรู คือโรคผิวหนังหนึ่งประเภทที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามบริเวณใต้ฝ่าเท้าในส่วนที่เราลงน้ำหนักมากๆ มีลักษณะเป็นรูเป็นจุดเล็กๆที่ฝ่าเท้า พร้อมกลิ่นเหม็นที่ส่งออกมา ซึ่งโรคนี้นั้นจะไม่มีอาการที่รุนแรงขึ้นจนทำให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่ลง และจะไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน และสามารถรักษาให้หายได้จากโรคนี้ได้แบบไม่เกิดขึ้นอีก โดยการเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ยา แม้ว่าโรคนี้จะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย แต่มันอาจมีผลต่อจิตใจและความมั่นใจสำหรับปผู้ป่วย เพราะโรคดังกล่าวนั้นมันคือโรคที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นวิตกกังวลไม่มั่นใจในการถอดลงเท้าเมื่อไปในที่ที่มีคนจำนวนมาก

โรคเท้าเป็นรูจะจัดการอย่างไรดีเมื่อเกิดขึ้นกับเรา

Pitted Keratolysis โรคเท้าเป็นรูเกิดจากอะไร

1.เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น

  • Corynebacteria,
  • Kytococcus sedentarius,
  • Dermatophilus congolensis,
  • Actinomyces
  • Streptomyces

2.คนที่ชอบสวมถุงเท้ารัดแน่น

3.คนที่ใส่รองเท้าที่ไม่มีการระบายอากาศ

3.คนที่มีภาวะเหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis)

โรคเท้าเป็นรูเกิดจาก-อะไรใครเสี่ยงบ้าง

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเท้าเป็นรูได้มากขึ้น

1.อายุที่เพิ่มขึ้น

2.โรคหรือภาวะผิดปกติบางชนิด เช่น

  • โรคเบาหวาน
  • ภาวะน้ำหนักเกิน
  • ภาวะฝ่าเท้าหนา

3.ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

4.การไม่รักษาความสะอาด

โรคเท้าเป็นรูเกิดจาก-อาการของโรคเท้าเป็นรู

อาการของโรคเท้าเป็นรู

1.รู้สึกเจ็บหรือคันฝ่าเท้าที่เป็นรูตอนเดิน

2.ฝ่าเท้ามีเหงื่อออกมากผิดปกติ

3.ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้าเปื่อย

4.ผิวหนังบริเวณที่เกิดรอยรูมีอาการแดง

ผู้ป่วยโรคเท้าเป็นรูควรทำอย่างไร

1.ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)

2.ยาฆ่าเชื้อ (Antiseptics) ชนิดทา

3.เลี่ยงการสวมใส่ถุงเท้าที่รัดแน่นจนเกินไป

4.เลี่ยงการสวมใส่รองเท้าที่รัดแน่นจนเกินไป

5.เลือกสวมใส่ถุงเท้าที่ช่วยซับเหงื่อได้ดี

6.สลับใช้รองเท้าหลาย ๆ คู่ และ

  • นำรองเท้าที่ใช้แล้วไปตากแดดบ่อย ๆ

7.หลีกเลี่ยงการใช้รองเท้าร่วมกับผู้อื่น

8.เลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น

9.ล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้งหลังอาบน้ำ

10.เช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง

ผู้ป่วยโรคเท้าเป็นรูควรทำอย่างไร

โดยปกติผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้นั้นหากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจากคำแนะนำของแพทย์ โรคดังกล่าวนั้นก็จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งโรคนี้หายไปหลังจากใช้ยาเพียง 1-8 สัปดาห์ แม้จะสามารถหายขาดได้ด้วยการรักษาอย่างถูกวิธี แต่ก็อย่าชะล่าใจ เพราะโรคนี้มันสามารถกลับมาเป็นได้อีกครั้ง ถ้าหากผู้ป่วยนั้นไม่รักษาคสามสะอาด และปล่อยให้เท้านั้นพบเจอกับความชื้นอยู่เป็นประจำ ดังนั้นหากผู้ป่วยไม่อยากให้โรคนี้กลับมาเป็นอีกครั้งจะต้อง….

1.จะต้องดูแลเท้าให้แห้วตลอดเวลา

2.รักษาเท้าให้แห้งและสะอาดเสมอ

3.สวมถุงเท้าที่ช่วยดูดซับความชื้นที่ดี เช่น

  • ถุงเท้าที่ทำมาจากผ้าฝ้าย
  • ถุงเท้าที่ทำมาจาผ้าโพลีเอสเตอร์
  • ถุงเท้าที่ทำมาจาเส้นใยไนลอน

4.ควรนำรองเท้าไปตากแดดบ่อย ๆ

5.ควรเลือกสวมรองเท้าแตะหรือ

  • รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีเสมอ