คดีพระล่อซื้อเด็กหญิง 13 “เอก สายไหมต้องรอด” ขยับ ตร.ยันให้ความเป็นธรรม – พระสึกแล้ว

ไปไม่รอด: คดีพระล่อซื้อเด็กหญิง 13 กลายเป็นหนึ่งในคดีสะเทือนใจที่สังคมให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องข่าวด่วนล่าสุด เมื่อ “เอก สายไหมต้องรอด” นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเด็ก ได้ออกมาติดตามความคืบหน้าคดี เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคกลาง ถูกกล่าวหาว่า ล่อซื้อบริการเด็กหญิงอายุเพียง 13 ปี โดยมีแม่ของเด็กเป็นผู้แจ้งความ ทั้งนี้ ล่าสุดมีรายงานว่า พระรูปดังกล่าวได้ทำการ ลาสิกขา (สึก) แล้วเรียบร้อย ขณะที่ตำรวจยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างโปร่งใส

เอก สายไหมต้องรอด เผยแม่เหยื่อผวา คดีพระล่อซื้อเด็กหญิง 13  ถูกลูกศิษย์พระคุกคาม

จากรายงานของ “เอก สายไหมต้องรอด” ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ขณะนี้แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายมีความกังวลใจอย่างมาก เนื่องจากมี ลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาส บางรายแสดงพฤติกรรมคล้ายข่มขู่และติดตาม จนหวั่นเกรงว่าอาจถูกทำร้ายหรือคุกคามเพื่อให้ยุติการดำเนินคดี

เอกจึงได้เข้ายื่นเรื่องขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานด้านสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน เข้ามาดูแลความปลอดภัยของแม่และเด็กอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่คดีอยู่ระหว่างดำเนินการ

ตำรวจเผยเบื้องต้น: ผู้ถูกกล่าวหาได้ “ลาสิกขา” แล้ว – อยู่ระหว่างสอบสวนเชิงลึก

ด้าน ตำรวจภูธรจังหวัด ที่รับผิดชอบคดีดังกล่าวเปิดเผยว่า เบื้องต้น เจ้าอาวาสผู้ถูกกล่าวหาได้สึกจากสมณเพศแล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในสถานะของพลเรือน โดยพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้วหลายปาก รวมถึงกำลังรอผลตรวจสอบหลักฐานดิจิทัล และร่องรอยการสื่อสารที่อาจเกี่ยวข้องกับการล่อซื้อดังกล่าว

พระฉาวล่อซื้อเด็กหญิง 13 ปี “เอก สายไหมต้องรอด” จี้ความเป็นธรรม – ตำรวจรับลูกสอบทุกมุม

เจ้าหน้าที่ระบุว่า คดีนี้ถือว่าอ่อนไหวอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับบุคคลในศาสนาและเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก

สังคมจับตา “พระในคราบนักล่า” – ชาวบ้านเผยพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลก่อนเกิดเรื่อง

นอกจากเรื่องราวในทางกฎหมายแล้วข่าวด่วนทุกชั่วโมง ในพื้นที่เกิดเหตุยังมีชาวบ้านหลายรายให้ข้อมูลกับสื่อท้องถิ่นว่า เคยพบพฤติกรรม “แปลกๆ” ของพระรูปดังกล่าวมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับเด็กในลักษณะไม่เหมาะสม หรือการเรียกเด็กมาทำกิจในวัดช่วงค่ำคืน ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยและติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดขณะเดียวกัน หลายฝ่ายยังเสนอให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของพระรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต

สรุป: คดีอ่อนไหวที่สังคมต้องช่วยกันจับตา

กรณีนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตกใจให้กับประชาชนทั่วไปข่าวด่วนล่าสุดวันนี้ แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนถึงปัญหาละเมิดสิทธิเด็กที่ยังคงเกิดขึ้นในสังคม แม้ในสถานที่ที่ควรปลอดภัยอย่างวัด ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นตัวอย่างของการที่คนในสังคม เช่น “เอก สายไหมต้องรอด” ลุกขึ้นมาช่วยติดตามและผลักดันให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้เสียหายอย่างแท้จริง

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่